ประวัติศาสตร์คนทองเอน
26 กรกฎาคม 2560

     /data/content/171/cms/behnpuv15689.jpg

คนทองเอน อดีตคือลาวแง้ว อพยพมาจากเวียงจันทร์ ประเทศลาว
      จากจดหมายเหตุ พระราชพงศาวดาร และการสืบค้นในปัจจุบันของผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ลาวสามารถประมวลท้องถิ่นที่ปรากฏ ลาวใน หรือ กลุ่มลาวถูกกวาดต้อนมาตั้งถิ่นฐานตามหัวเมืองรอบๆพระนคร เนื่องจากสงครามในสมัยกรุงธนบุรี-ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ดังนี้
1.ลาวเวียง และลาวจากเมืองต่างๆ ใกล้เวียงจันทน์ เหตุการณ์ครั้งที่อพยพลาวเวียงมาเป็นจำนวนมากที่สุดเกิดขึ้นสมัยสงครามเจ้าอนุวงศ์เมื่อ พ.ศ.2369 และพ.ศ.2371 รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ
2.ลาวครั่ง หรือ ลาวภูครัง ในเอกสารกล่าวว่า เป็นเมืองอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ถูกกวาดต้อนในรัชกาลที่ 2 ให้ไปอยู่ที่เมืองนครชัยศรีหรือนครปฐม
3.ลาวเวียง ลาวแง้ว ลาวจากหัวเมืองแถบหลวงพระบางเนื่องมาจากสงครามศึกเจ้าอนุวงศ์ ตั้งแต่พ.ศ.2371-2373 นอกจากจะเผาเมืองเวียงจันทร์เสียสิ้นแล้ว ยังได้กวาดต้อนผู้คนระลอกใหญ่อย่างต่อเนื่องมีทั้งครัวลาวเวียงและลาวเวียงเมืองอื่นๆ ซึ่งในส่วนของลาวแง้วตามเอกสารของราชกาลไม่มีปรากฏ แต่ส่วนใหญ่จะเรียกกันรวมๆว่า ลาวเวียง และสำหรับทางราชการชื่อลาวแง้วไม่ได้เป็นที่รู้จัก แต่คงเป็นการรู้กันภายในเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
     การกวาดต้อนครั้งนี้ น่าจะมีทั้งลาวเวียง ลาวครั่ง และลาวแง้วด้วย เหตุที่สันนิษฐานว่า ลาวแง้วน่าจะเป็นกลุ่มลาวกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ถูกกวาดต้อนกันมาในครั้งนี้ก็เพราะ การสำรวจพบในปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มผู้เรียกตนเองว่าลาวแง้วตั้งเป็นชุมชนจำนวนมาก กระจัดกระจายตั้งแต่เขต สระบุรีลพบุรี สงห์บุรี
และนครสวรรค์ ปะปนกับกลุ่มพวนและลาวเวียงซึ่งคนในท้องถิ่นก็จะทราบกันเองว่าลาวแง้วเป็นกลุ่มที่แตกต่างไปจากลาวกลุ่มอื่นๆที่กล่าวมา อีกทั้งการศึกษาทางภาษาศาสตร์พบว่า แม้ภาษาลาวทั้งหมดจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน คือ ภาษาไท-กะได แต่เมื่อแยกเสียงวรรณยุกต์แล้วภาษาลาวแง้วมีเสียง
วรรณยุกต์ใกล้เคียงกับภาษาลาว กลุ่มหลวงพระบางและยังใกล้เคียงกับการแยกเสียงวรรณยุกต์ในภาษาลาวครั่งที่นครชัยศรีด้วย
     และสัมพันธ์กับเรื่องเล่าที่ตกทอดสู่ลูกหลานในกลุ่มลาวแง้วหลายๆคนว่ากล่าวว่า ได้อพยพมากจากเมืองหลวงพระบางบ้าง เมืองที่อยู่ใกล้ๆกับหลวงพระบางบ้าง ดังนั้น ลาวแง้วน่าจะเป็นกลุ่มลาวที่อพยพมาจากหัวเมืองแถบรอบๆเมืองหลวงพระบางในครั้งศึกเจ้าอนุวงศ์มากกว่าจะเป็นกลุ่มลาวเวียงจันทร์
หรือบ้านเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเวียงจันทร์
    ในปัจจุบัน กลุ่มลาวแง้วที่สำรวจพบ อยู่ในเขต อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมี่และอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรีมากที่สุด นอกนั้น ก็เป็นกลุ่มที่อยู่ดั่งเดิมคือในตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งมีชาวลาวแง้วอยู่เกือบทั้งตำบลแล้ว ในเขตวัดม่วง วัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรีมีคนเชื้อ
สายลาวแง้วอาศัยอยู่มาก นอกจากนี้ยังมีที่วัดท่าอิฐ วัดเกาะแก้ว วัดตุ้มหู บางโฉมศรี ตำบลชีน้ำรายอำเภออินทร์บุรี และแถบตำบลบ้านสิงห์ วัดสาธุ ตำบลโพงพางเสือ อำเภอบางระจัน ก็มีลาวแง้วอาศัยอยู่ ส่วนใน เขตตาคลี่ จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เป็นต้น
     กลุ่มลาวแง้วที่ขยับขยายหาพื้นที่ทำกินแห่งใหม่ แยกออกจากชุมชนเดิมและอยู่รวมกลุ่มกับคนที่อพยพมาเช่นเดียวกันจนกลายเป็นหมู่บ้านเกิดใหม่อีกหลายแห่ง

       คนทองเอน อดีตคือลาวแง้ว อพยพมาจากเวียงจันทร์ ประเทศลาว

      จากจดหมายเหตุ พระราชพงศาวดาร และการสืบค้นในปัจจุบันของผู้สนใจเกี่ยวกับ เรื่อง 
กลุ่มชาติพันธุ์ลาวสามารถประมวลท้องถิ่นที่ปรากฏ ลาวใน หรือ กลุ่มลาวถูกกวาดต้อนมาตั้งถิ่นฐาน
ตามหัวเมืองรอบๆพระนคร เนื่องจากสงครามในสมัยกรุงธนบุรี-ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ดังนี้

      ๑.ลาวเวียง และลาวจากเมืองต่างๆ ใกล้เวียงจันทน์ เหตุการณ์ครั้งที่อพยพลาวเวียงมาเป็นจำนวน
มากที่สุดเกิดขึ้นสมัยสงครามเจ้าอนุวงศ์เมื่อ พ.ศ.๒๓๖๙ และ พ.ศ.๒๓๗๑ รัชกาลพระบาทสมเด็จ
พระนั่งเกล้าฯ

      ๒.ลาวครั่ง หรือ ลาวภูครัง ในเอกสารกล่าวว่า เป็นเมืองอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ถูกกวาดต้อน
ในรัชกาลที่ ๒ ให้ไปอยู่ที่เมืองนครชัยศรีหรือนครปฐม

      ๓.ลาวเวียง ลาวแง้ว ลาวจากหัวเมืองแถบหลวงพระบาง เนื่องมาจากสงครามศึกเจ้าอนุวงศ์ 
ตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๗๑-๒๓๗๓ นอกจากจะเผาเมืองเวียงจันทร์เสียสิ้นแล้ว ยังได้กวาดต้อนผู้คนระลอกใหญ่
อย่างต่อเนื่องมีทั้งครัวลาวเวียงและลาวเวียงเมืองอื่นๆ ซึ่งในส่วนของลาวแง้วตามเอกสารของราชกาล
ไม่มีปรากฏ แต่ส่วนใหญ่จะเรียกกันรวมๆว่า ลาวเวียง และสำหรับทางราชการชื่อลาวแง้วไม่ได้เป็นที่รู้จัก 
แต่คงเป็นการรู้กันภายในเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

     การกวาดต้อนครั้งนี้ น่าจะมีทั้งลาวเวียง ลาวครั่ง และลาวแง้วด้วย เหตุที่สันนิษฐานว่า ลาวแง้ว
น่าจะเป็นกลุ่มลาวกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ถูกกวาดต้อนกันมาในครั้งนี้ก็เพราะ การสำรวจพบในปัจจุบัน
พบว่ามีกลุ่มผู้เรียกตนเองว่าลาวแง้วตั้งเป็นชุมชนจำนวนมาก กระจัดกระจายตั้งแต่เขต สระบุรี ลพบุรี 
สงห์บุรี
และนครสวรรค์ ปะปนกับกลุ่มพวนและลาวเวียง ซึ่งคนในท้องถิ่นก็จะทราบกันเองว่าลาวแง้ว
เป็นกลุ่มที่แตกต่างไปจากลาวกลุ่มอื่นๆที่กล่าวมา อีกทั้งการศึกษาทางภาษาศาสตร์พบว่า แม้ภาษา
ลาวทั้งหมดจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน คือ ภาษาไท-กะได แต่เมื่อแยกเสียงวรรณยุกต์แล้วภาษาลาวแง้ว
มีเสียงวรรณยุกต์ใกล้เคียงกับภาษาลาว กลุ่มหลวงพระบางและยังใกล้เคียงกับการแยกเสียง
วรรณยุกต์ในภาษาลาวครั่งที่นครชัยศรีด้วย

     และสัมพันธ์กับเรื่องเล่าที่ตกทอดสู่ลูกหลานในกลุ่มลาวแง้วหลายๆคน กล่าวว่า ได้อพยพมา
จากเมืองหลวงพระบางบ้าง เมืองที่อยู่ใกล้ๆกับหลวงพระบางบ้าง ดังนั้น ลาวแง้วน่าจะเป็นกลุ่มลาว
ที่อพยพมาจากหัวเมืองแถบรอบๆ เมืองหลวงพระบางในครั้งศึกเจ้าอนุวงศ์ มากกว่าจะเป็นกลุ่ม
ลาวเวียงจันทร์ หรือบ้านเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเวียงจันทร์

     ในปัจจุบัน กลุ่มลาวแง้วที่สำรวจพบ อยู่ในเขต อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอโคกสำโรง 
จังหวัดลพบุรี มากที่สุด นอกนั้น ก็เป็นกลุ่มที่อยู่ดั่งเดิมคือในตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี 
ซึ่งมีชาวลาวแง้วอยู่เกือบทั้งตำบลแล้ว ในเขตวัดม่วง วัดโพธิ์ศรี ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี มีคน
เชื้อสายลาวแง้วอาศัยอยู่มากด้วยเช่นกัน 
     นอกจากนี้ยังมีที่วัดท่าอิฐ วัดเกาะแก้ว วัดตุ้มหู บางโฉมศรี ตำบลชีน้ำรายอำเภออินทร์บุรี และ
แถบตำบลบ้านสิงห์ วัดสาธุ ตำบลโพงพางเสือ อำเภอบางระจัน ก็มีลาวแง้วอาศัยอยู่ ส่วนใน เขตตาคลี
จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรีก็มีบ้าง เป็นต้น