วัดจำปาทอง
30 พฤศจิกายน 2561

/data/content/489/cms/efhklrv12359.jpg


วัดจำปาทอง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๑/๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลโพประจักษ์ อำเภอท่าช้าง
จังหวัดสิงห์บุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๕๙ ไร่ ๓ งาน ๑๔ ตารางวา
โฉนดที่ดินเลขที่ ๙๖๔๓

อาณาเขต
ทิศเหนือ จดที่ดินเอกชน
ทิศใต้ จดที่ดินเอกชน
ทิศตะวันออก จดแม่น้ำน้อย
ทิศตะวันตก จดที่ดินเอกชน

อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย
อุโบสถ กว้าง ๔.๕๐ เมตร ยาว ๑๖ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ศาลาการเปรียญ กว้าง ๓๓.๖ เมตร ยาว ๖๓.๔ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
หอสวดมนต์ กว้าง ๑๙.๙ เมตร ยาว ๓๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
กุฏิสงฆ์ จำนวน ๓ หลัง เป็นอาคารไม้ ๑ ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๒ หลัง
วิหาร กว้าง ๒๑ เมตร ยาว ๓๔.๗ เมตร เป็นอาคารไม้ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๘ เป็นอาคารไม้
ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ๑ หลัง

นอกจากนี้มี ฌาปนสถาน ๑ หลัง หอระฆัง ๑ หลัง หอฉัน ๑ หลัง

ปูชนียวัตถุ มีพระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย
ปูชนียวัตถุอื่นๆ เรือมาดจำปาทอง ขนาดความยาว ๑๓ เมตร ๖ แจว เป็นเรือโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ธรรมาสน์
ขนาด ๒ เมตร ยาว ๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗

วัดจำปาทอง ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๕ สมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อว่า วัดแม่ทอง เพราะแม่ทองเป็นคนสร้าง
สาเหตุที่ สร้างเพราะว่าลูกชายของแม่ทองถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารที่เมืองวิเศษชัยชาญ ท่านบนไว้ว่าถ้าลูกชาย
กลับมาจากการ เป็นทหารโดยปลอดภัย จะไห้ลูกชายบวชเมื่อลูกชายกลับมา แม่ทองคิดจะให้ลูกชายบวช แต่
ในสมัยนั้นวัดมีน้อย แม่ทองจึงได้สร้างวัดขึ้นเพื่อให้ลูกชายได้พำนักอาศัย

ต่อมา แม่ทองได้มาอาศัยอยู่ที่วัดเพื่อปรนนิบัติพระลูกชาย จวบ จนกระทั่งแม่ทองได้สิ้นชีวิตเพราะความชรา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของวัดในช่วงน้นไม่ปรากฏ จวบจนเข้าสู่สมัย รัตนโกสินทร์ ประมาณ พ.ศ.๒๔๓๐ ได้
มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดและจำพรรษาอยู่บนโคกพระนอนซึ่งเป็นวัดร้าง (วัดแม่ทอง) และได้บรูณะวัดแม่ทอง
แห่งนี้ เริ่มมีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา และได้เปลี่ยนชื่อจากวัดแม่ทอง เป็น วัดจำปาทอง เพื่อให้สอดคล้องกับ
ชื่อหมู่บ้านจำปาทอง พ.ศ. ๒๔๔๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประภาสต้นพักร้อนที่
วัดจำปาทอง พร้อมทั้งพระราชทาน พระบรมฉายาลักษณ์แก่หลวงพ่อแช่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น
โดยได้นำไปประดิษฐานในพระอุโบสถ แต่ปัจจุบัน ชำรุดแล้ว พ.ศ.๒๔๕๙

พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประพาสมณฑลกรุงเก่าซึ่งพระยาโบราณราชธานินทร์
(พร เดชะคุปต์) บันทึกไว้ว่า "วันที่ ๑๙ กันยายน เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จแต่พลับพลาบ้านเกาะขึ้นไปตามแม่น้ำน้อย
ประทับร้อน ณ วัดจำปาทอง ท้องที่อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ระยะทาง ๒ ชั่วโมง ๕๐ นาที ประทับเสวยแล้วเสด็จ
แต่วัดจำปาทอง ขึ้นไปประทับแรมพลับพลาหน้าที่ว่าการอำเภอสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ระยะทาง ๒ ชั่วโมง ๘ มีนาคม
พ.ศ.๒๕๔๓ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประพาสทางเรือ ทรงประทับเรือมาด จำปาทอง
จากวัดกลางท่าข้าม มาขึ้นที่วัดพิกุลทอง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๓๘๒ เขตวิสุงคามสีมา
กว้าง ๔.๕๐ เมตร ยาว ๑๖ เมตร

การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คือ พระครูสุพจน์วรการ (สุวโจ)